วันเสาร์ 27 กรกฎาคม 2024
  • :
  • :
Latest Update

รู้ไว้ ‘ก่อนสงครามใหญ่เกิด’ – เปลว สีเงิน

  • Wednesday, December 27, 2017 – 00:00


    เมื่อสหรัฐฯ……..

    ใช้เงื่อนไข “เยรูซาเลม” ก่อไฟสงคราม จะเกิด-ไม่เกิด เป็นเรื่องหนึ่ง

    ที่สำคัญคือ เราควรรู้ “รากเหง้า” ปัญหา เป็นต้นทุนปัญญาไว้ก่อน ไม่งั้น จะเป็นปลาที่ถูกสายเบ็ดลาก!

    ผมเอง “รู้ไม่ถึง”

    แต่ Kittitouch Chaiprasith รู้กว้างและลึก โพสต์ fb ไว้ ๒ ตอน คือ

    เรื่อง AIPAC พันธสัญญาอเมริกา-อิสราเอล ที่ประธานาธิบดีและทีมงานต้องทำตาม

    กับเรื่อง “Semitic” พงศ์พันธุ์แห่งตะวันออกกลางกับการบิดเบือนความหมายและนำมาใช้

    เพื่อปิดปากผู้ต่อต้านการละเมิดความเป็นมนุษย์ของชาวปาเลสไตน์ โดย “Zionist”

    วันนี้ ขออนุญาต Kittitouch Chaiprasith นำตอนแรก เผยแพร่เป็นวิทยาทานก่อน คือตอน

    “AIPAC พันธสัญญาอเมริกา-อิสราเอล ที่ประธานาธิบดีและทีมงานต้องทำตาม”

    ——————————–

    Kittitouch Chaiprasith

    -ผู้ที่ติดตามโพสท์ของผมมาตลอดจะทราบดีว่า เวลาที่ผมพูดถึงอเมริกาผมไม่เคยกล่าวถึงประธานาธิบดีคนไหนเป็นการส่วนตัว ว่าไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้

    ไม่ว่าจะเป็น ทรัมป์ โอบาม่า บุช คลินตัน (รวมถึงบรรดารองประธานาธิบดีคนไหนๆ)

    -ทั้งนี้ เนื่องจากคนจำนวนมากยังเข้าใจผิด คิดว่า ประธานาธิบดีอเมริกาสามารถตัดสินใจนโยบายต่างประเทศเอง

    -ในความเป็นจริง การทำงานในทำเนียบประธานาธิบดีเป็นแค่คนตัดสินใจสุดท้าย

    แต่คนเสนอข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ล้วนแต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่ทำงานอยู่ในระดับ Federal

    ไม่ว่าจะ CIA หรือเจ้าหน้าที่ทางการทหาร ผู้เชี่ยวชาญ หรือที่เราเรียกกันว่า “Think Tank”

    คนพวกนี้ คือมันสมองที่ทำงานให้กับรัฐ ซึ่งคนพวกนี้แหละ ที่ประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและกลุ่มทุน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่างให้ประธานาธิบดีไปตัดสินใจ

    Think Tank สำคัญของอเมริกา เช่น

    -Brookings Institution

    -RAND Corporation

    -Hoover Institution

    -Council on Foreign Relations (CFR)

    -Carnegie Endowment for International Peace เป็นต้น

    Think Tank เหล่านี้ คือที่มาของนโยบายต่างๆ

    Think Tank เป็นทั้งผู้เสนอนโยบายต่อทีมงานประธานาธิบดีและเป็นทั้งล็อบบี้ยิสท์ ที่คอย “วิ่งเต้น” ตามการล็อบบี้ของกลุ่มทุนต่างๆ ไม่ว่าจะทุนน้ำมัน อาหาร ยา อาวุธ ทุนการเงิน ฯลฯ

    ————————

    1.AIPAC: พันธสัญญาอเมริกา-อิสราเอล

    ————————

    -Think Tank อันหนึ่งที่มีสถานะที่พิเศษมาก เป็นทั้ง Think Tank และ Lobbyist รวมถึงเป็นที่ชุมนุมของบรรดานายทุนสำคัญๆ คือ

    #AIPAC คณะกรรมการความร่วมมือด้านกิจการสาธารณะอเมริกา-อิสราเอล “American Israel Public Affairs Committee”

    เป็นสถาบันพิเศษที่ไม่เหมือน Lobbyist ทั่วไป ที่จะเป็นคนวิ่งเข้าหาทีมงานของประธานาธิบดี

    แต่เป็นสถาบันที่ ประธานาธิบดีต้องวิ่งมาเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ในงาน

    ว่าพวกเขามีนโยบายต่ออิสราเอลอย่างไร ก่อนที่จะได้รับยอมรับ และสามารถชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้

    *** เพราะถ้าสถาบันนี้ไม่ยอมรับแล้วละก็ อย่าหวังว่านายทุนยิวในประเทศอเมริกาจะยอมเทคะแนนเสียงและฐานเสียงที่มีให้กับทางประธานาธิบดีเหล่านั้นได้

    …………………………..

    *** ทุกปี AIPAC จะมีการจัดสัมมนาใหญ่ ซึ่งประธานาธิบดี รองประธานาธิบดีและทีม

    ต้องเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ต่อบรรดานายทุน และผู้ที่ศรัทธาต่อการดำรงอยู่ของอิสราเอล

    ไม่ว่าจะเป็น จอร์จ บุช, บิล คลินตัน, โอบาม่า, ฮิลลารี่ คลินตัน, โดนัลล์ ทรัมป์

    หรือรอง ปธน.อย่าง Joe Biden, Mike Pence, หรือแม้แต่พวกที่ลงสมัครประธานาธิบดีและการเมืองในเขตสำคัญๆ ก็ต้องมาแสดงวิสัยทัศน์เช่นกัน ไม่ว่าจะ Mitt Romney, John McCain ฯลฯ

    #ไม่ว่าจะพรรค_Republican_หรือ_Democrat ก็ต้องทำเหมือนกัน

    ทุกคนต้องผ่านสัมมนานี้

    ผู้ที่จะขึ้นไปบริหารประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ต้องแสดงวิสัยทัศน์ที่มีต่ออิสราเอลเสียก่อน

    *** การที่ทรัมป์ประกาศให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอล ไม่ใช่เรื่องใหม่

    คำประกาศนี้มีมาตั้งแต่สมัย บิล คลินตัน สืบมาจนจอร์จ บุช, โอบาม่า

    ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ทรัมป์มาประกาศเอาเอง ประธานาธิบดีทุกคนที่ขึ้นมารับตำแหน่งต้องแสดงจุดยืนนี้ชัดเจน!!

    -เพียงแต่ที่ผ่านมาอเมริกาครองอำนาจเป็นมหาอำนาจสูงสุดหลังการล่มสลายของโซเวียต

    แต่ช่วงหลังมานี้ ประเทศอื่นเริ่มขึ้นมามีอำนาจเทียบเคียงกับอเมริกา

    ส่วนยุโรปเอง ก็เริ่มตีตัวออกห่างอเมริกา

    ส่วนมหามิตรอย่างซาอุดิอารเบียเองนั้น งานนี้ก็ไม่กล้าหักกับประชาชาติมุสลิม

    (ส่วนตุรกีของเออโดกันนั้น หลังโดนความพยายามรัฐประหารจากอเมริกา ก็ย้ายข้างมาอยู่ฝั่งจีนรัสเซียเรียบร้อย ยิ่งพอมีเรื่องนี้ยิ่งได้โอกาสแสดงตัว)

    ————————

    2.Christian Zionism: ผู้บิดเบือนคำสอนคริสต์ศาสนา เพื่อให้สนับสนุนอเมริกา-อิสราเอล

    ————————

    – นอกจาก AIPAC แล้ว ในอเมริกาเองก็มีการสร้างลัทธิ/สำนักคิด/ความเชื่อ ที่เรียกกันว่า #Chrisitan_Zionism

    ซึ่งคอยล้างสมองประชาชน ผ่านคำเทศนาของพวกผู้นำศาสนาคริสต์นิกายแปลกๆ (ที่ชาวคริสต์กระแสหลักเขาไม่ยุ่งด้วย)

    -ที่คอยประกาศตลอดบนเวที-สื่อว่า อเมริกาเป็นชนชาติของพระผู้เป็นเจ้า

    และเป็นชนชาติที่ได้รับการเลือกสรรเช่นเดียวกับอิสราเอลและพันธกิจสำคัญ ต้องปกป้องอิสราเอลในฐานะชนชาติพิเศษ

    – Chrisitan Zionism สำคัญของขบวนการ และได้ขึ้นปราศรัยบนเวที AIPAC ด้วยก็คือ

    John Hagee คนนี้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่คอยล้างสมองให้คนอเมริกันต้องปกป้องอิสราเอลในฐานะชนชาติที่ได้รับเลือกสรร https://www.youtube.com/watch?v=5as5_VjK62M

    – นอกจากนี้ นายคนนี้มักจะปราศรัยโจมตีประเทศอื่น หรือศาสนาต่างๆ ที่เขามองว่าเป็นศัตรูกับอเมริกา ไม่ว่าจีน รัสเซีย อิหร่าน

    แม้แต่ศาสนาอิสลาม ……….

    ที่เขาพยายามโยงกับ Four Horseman ที่ในคัมภีร์เป็นตัวแทนของความตาย ความอดอยาก สงครามการทำลายล้าง ซึ่งเป็นสิ่งนามธรรม

    – แต่นายคนนี้เอามาตีความใหม่ (ทึกทัก)

    โดยทึกทักเอาว่า อิสลามและประชาชาติที่เป็นศัตรูอเมริกาคือ Four Horseman

    และเป็นหน้าที่ของชาวคริสต์และอเมริกันชน ที่ต้องสร้างประเทศและกองทัพเพื่อต่อสู้ “because the bible say this!!!” (ประโยคสุดฮอตของนายคนนี้) https://www.youtube.com/watch?v=UOqUGgzZl6A

    *** อย่าคิดว่าเป็นเรื่องตลกนะครับ

    นายคนนี้มีผู้ติดตามเป็นแสนเป็นล้านคน ได้พูดในงานสำคัญที่มีคนฟังนับพัน-หมื่น มีนักการเมืองสำคัญๆ หลายคนเป็นสาวก

    ถ้าไม่แน่จริง ไม่มีทางได้ไปขึ้นพูดในงานของสถาบัน AIPAC ที่ประธานาธิบดีทุกคนต้องไปปราศรัยเพื่อโชว์วิสัยทัศน์กันหรอก

    *** และที่น่ากลัวคือ ในยุคหลังๆ นี้ AIPAC เริ่มเข้าไปตีเครือข่ายนักศึกษา ผ่านองค์กร NGO ที่เคลื่อนไหวและให้ทุนสนับสุนนพวกนักกิจกรรมในมหาลัย โดยพยายามนำเด็กจากหลายชาติพันธุ์ ไม่ว่าคนผิวดำ เอเชีย อินเดีย อาหรับ มาขึ้นเวที เพื่อแสดงให้เห็นว่าเยาวชนก็สนับสนุนกระบวนการ Zionism นี้

    (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นักศึกษาทุกคนต้องเชื่อและศรัทธาต่อความสัมพันธ์ของอเมริกาและอิสราเอลอย่างสุดหัวใจ)

    —————————-

    3.บทส่งท้าย

    ————————

    *** สำหรับโพสท์นี้ ก็ขอจบเพียงเท่านี้ ถ้าพูดที่อ่านจนจบและได้ดูคลิปหรือค้นข้อมูลต่างๆ เพิ่ม คงพอเข้าใจแล้ว

    ว่าทำไมอเมริกาต้องสนับสนุนอิสราเอลอย่างสุดกำลัง สุดจิตใจ เพราะพวกเขาเชื่อเช่นนั้นจริงๆ ว่าอิสราเอลคือชนชาติพิเศษ ที่อเมริกามีหน้าที่ปกป้อง

    *** ไม่ว่าอิสราเอลจะกระทำโหดเหี้ยมต่อชาวปาเลสไตน์เพียงไร ไม่ว่าอิสราเอลจะทำการรุกไล่ที่ดินชาวปาเลสไตน์รายวัน เพื่อนำผู้อพยพใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มอยู่ตลอด

    แต่กระนั้น อเมริกาก็ไม่สนใจ………..

    เพราะเขาเชื่อว่าตน คือ ชนชาติพิเศษและเป็นผู้รักษาประชาธิปไตย เสรีภาพ และคุณค่าอันยิ่งใหญ่ทั้งทางโลกและทางศาสนา

    เพื่อให้อาณาจักรอเมริกายั่งยืนถาวรคู่ไปกับอิสราเอลเสมอๆ

    ** ดังนั้นแล้ว ………….

    อย่าเสียเวลาไปด่าประธานาธิบดีเป็นคนๆ เลยครับ

    ต่อให้เลือกตั้งอีกกี่สิบชาติ ตราบใดที่โครงสร้างของการเมืองอเมริกายังเป็นเหมือนเดิมนั้น

    ระบอบคณาธิปไตยที่มีการเลือกตั้งก็ยังอยู่ และการทำตามพันธสัญญากับอิสราเอลนั้น

    ไม่ใช่สิ่งที่นายทรัมป์หรือใครคิด/ทำขึ้นเอง (เพื่อให้ชาวโลกด่า) แต่มันเป็นสิ่งที่ทุกคนที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งในประเทศอเมริกา

    ต้องปฏิบัติตามแนวทางนี้ทั้งสิ้น

    แค่ว่าจะทำช้าหรือทำเร็ว ค่อยๆ ทำ หรือรุกหนัก

    แต่ไม่ว่าทำแบบไหน ทุกคนก็ล้วนประกาศชัดเจนว่า………

    “เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล”

    ป.ล. สโลแกนของ AIPAC คือ “America’s Pro-Israel Lobby”

    ซึ่งตรงไปตรงมา ไม่ได้ปกปิดเลย หุหุ

    -Kittitouch Chaiprasith

    ครับ “อีกตอน” คงต้องวันหลัง ขออนุญาตคุณ Kittitouch Chaiprasith ไว้ล่วงหน้าก่อน

    สำหรับพรุ่งนี้-ปะรืน คุณ “ผักกาดหอม” จะมาคุยกับท่าน ส่วนผม จะไปถวายสักการะ

    “พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ที่ต่างจังหวัด เนื่องในวัน “สมเด็จพระเจ้าตากสิน” ๒๘ ธันวา

    หวังว่า “สงครามยังไม่เกิด”?