วันพฤหัสบดี 5 ธันวาคม 2024
  • :
  • :
Latest Update

สหรัฐร้องตัดพม่าออกจากการฝึกคอบร้าโกลด์


แกนนำสมาชิกสภาคองเกรสหรัฐ เรียกร้องให้ตัดเมียนมาออกจากการฝึกผสมทางทหารที่นำโดยกองทัพสหรัฐ “คอบร้าโกลด์” ที่กำลังจะมีขึ้นในประเทศไทยในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางแรงกดดันให้สหรัฐเพิ่มการคว่ำบาตร เพื่อตอบโต้ต่อการก่อความรุนแรงต่อชาวโรฮีนจาในเมียนมา

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงวสอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ว่า แผนการเข้าร่วมของเมียนมา ในการฝึกผสมคอบร้าโกลด์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. มีขึ้นขณะที่หน่วยความมั่นคงของเมียนมาถูกกล่าวหาว่าสังหารพลเรือนหลายร้อยคน หรืออาจจะหลายพันคน และเผาหมู่บ้านชาวโรฮีนจาหลายแห่ง หลังจากกลุ่มติดอาวุธโรฮีนจาบุกโจมตีฐานตำรวจเมียนมาในรัฐยะไข่ เมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว
ตอบโต้ด้วยปฏิบัติการกวาดล้างของกองทัพเมียนมา ทำให้ชาวโรฮีนจากว่า 680,000 คน หลบหนีข้ามแดนจากรัฐยะไข เข้าสู่บังกลาเทศ สมทบชาวโรฮีนจาอีกหลายแสนคนที่พักพิงอาซัยอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว
นั่นทำให้การเกี่ยวพันของเมียนมาในคอบร้าโกลด์ การฝึกผสมทางทหารนานาชาติขนาดใหญ่สุดในเอเชีย-แปซิฟิกของอเมริกา เกิดความโต้แย่งมากขึ้่น แม้ว่าเมียนมาจะเคยเข้าร่วมการฝึกรายการนี้มาก่อน
พ.ท.นาวิกโยธิน คริสโตเฟอร์ โลแกน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ 3 คนจากเมียนมาได้รับเชิญให้เข้าร่วมสังเกตการณ์ การฝึกซ้อมทางด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติ แต่ตัวบุคคลและยศตำแหน่งของเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ยังอยู่ในระหว่างการหารือ

วุฒิสมาชิก จอห์น แม็คเคน พรรครีพับลิกันจากรัฐแอริโซนา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกองทัพวุฒิสภา กล่าวว่า กองทัพที่เกี่ยวพันกับการกวาดล้างชาติพันธุ์ ไม่ควรเข้าร่วมการแสดงทักษะร่วมกับทหารสหรัฐ ส่วนวุฒิสมาชิก เอ็ด มาร์คีย์ พรรคเดโมแครตจากรัฐแมสซาชูเซตส์ กล่าวว่า สหรัฐควรปิดช่องนิรโทษกรรมที่ปกป้องกองทัพเมียนมา
รัฐบาลสหรัฐนำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรไปแล้ว ต่อแม่ทัพภาคตะวันตกของกองทัพเมียนมา และกำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำรายอื่นๆ สหรัฐยังคงจำกัดการออกวีซ่า และการให้ความช่วยเหลือแก่กองทัพเมียนมา
แต่ร่างกฎหมายของวุฒิสภาที่เสนอร่วมโดย 2 พรรค และอนุมัติเมื่อวันพุธโดยคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ จะเพิ่มการลงโทษ ด้วยมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม และเพิ่มข้อจำกัดความเกี่ยวพันทางทหารกับเมียนมา.
… อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/foreign/626273