วันพุธ 11 ธันวาคม 2024
  • :
  • :
Latest Update

‘สัญญาณต่างชาติ’ ผ่านหมวดเจี๊ยบ…เปลว สีเงิน


แก้แหไปอีกเปลาะ……….

ที่พรรคการเมืองเขาโวย ว่ากฎหมายพรรคคลอดแล้วตั้งตุลา แต่รัฐบาลไม่ยอมปลดล็อก

เลยทำอะไรที่กฎหมายกำหนดให้ทำภายใน ๑๘๐ วันไม่ได้นั้น!

เมื่อวาน (๑๙ ธ.ค.๖๐) “ซานต้าตู่” ออกมาแจกของขวัญแล้ว บอกว่า

“รัฐบาลจะใช้มาตรา ๔๔ แก้ปัญหา ขยายเวลาที่บังคับใน พ.ร.ป.พรรคการเมืองออกไป

ประชาชนและพรรคการเมืองไม่ต้องกังวล

รวมถึงพรรคการเมืองเก่าและพรรคการเมืองใหม่ ยังมีโอกาส ดำเนินการด้านธุรการ เรื่องสมาชิกพรรคและเรื่องอื่นๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม”

มีอะไรบ้างล่ะ ที่พรรคการเมืองต้องทำให้เสร็จภายใน ๑๘๐ วัน เพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง?

ก็มี…….

๑.แจ้งเปลี่ยนสมาชิกภาพ ภายใน ๙๐ วัน จะครบกำหนด ๕ ม.ค.๖๑

๒.หาสมาชิกให้ครบ ๕๐๐ คน ภายใน ๑๘๐ วัน จะครบ ๕ เม.ย.๖๑ และ

๓.ให้มีทุนประเดิมพรรค ๑ ล้าน ภายใน ๑๘๐ วัน จะครบ ๕ เม.ย.๖๑

“ซานต้าตู่” ยังลูบหลัง ถึงจะเลื่อน เทอมเวลาตามโรดแมป ยังคงเดิม

หมายความว่า “ปลายปี ๖๑” ได้เลือกตั้งแน่!

อย่างไรก็ตาม เป็นการ “ดับไฟในทรวง” คนกระหายเลือกตั้ง ผมฝากให้คิดคำนึงเรื่องหนึ่ง

คือยังมี “พระราชพิธี” สำคัญสูงสุด อีกพระราชพิธีหนึ่ง ที่ควรต้องให้ผ่านพ้นไปก่อน ค่อยพูดกันถึง “วัน-เวลา” เลือกตั้ง

นั่นคือ “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก”

อันเป็นพิธีการ เพื่อสถาปนาพระมหากษัตริย์อย่างเป็นทางการ

คงจำกันได้ เมื่อ ๑๓ ตุลา ๕๙ “ประธาน สนช.” ได้กราบบังคมทูลเชิญ

“สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร” องค์พระรัชทายาท เสด็จขึ้นทรงราชย์

เป็นพระมหากษัตริย์

ตามกฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.๒๔๖๗ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ระหว่างที่ประชาชนยังมิได้ถวายพระปรมาภิไธย เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามพระราชประเพณี นั้น

“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระปรมาภิไธยว่า

“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร”

นั่นคือ วาระต่อจากนี้ เป็นกาลสู่ “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก”

หมายถึงกาลที่……….

“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” จะเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ

เป็น “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๑๐ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ อันสมบูรณ์

ขั้นตอนในพระราชพิธีนี้ สำคัญและมีความละเอียดอ่อนมาก

ดังนั้น……..

เมื่อพระราชพิธีบรมราชาภิเษกยังไม่เริ่ม ในความเห็นผม ทางรัฐบาล ก็ยังไม่บังควร “กำหนดวันเลือกตั้ง”

ควรรอให้ทาง “สำนักพระราชวัง” ประกาศวันประกอบพระราชพิธีก่อน และเมื่อพระราชพิธีบรมราชาภิเษกผ่านพ้นไปแล้ว นั่นแหละ

รัฐบาล พรรคการเมือง กกต. ค่อยนัดหารือร่วมกัน

ว่า “จะเอาวันไหน” เป็นวันเลือกตั้ง?

เหตุผลคือ ถ้ากำหนดวันเลือกตั้งตั้งแต่เดี๋ยวนี้ จะแน่ใจได้อย่างไรว่า ทั้งพระราชพิธี ทั้งการหาเสียง ช่วงเวลาจะไม่คาบเกี่ยวกัน?

อีกประการหนึ่ง………

ไม่เป็นการสมควรอย่างยิ่ง ในวาระแห่งพระราชพิธีสำคัญสูงสุดของชาตินั้น

รัฐบาลจะเป็น “รัฐบาลรักษาการ”!

การเมืองที่ดูขยุกขยิกน่าเกลียดตอนนี้ ผมว่ากับรัฐบาลไม่เท่าไหร่ งานต่างๆ ที่ก่อร่างสร้างโครงการมา ๒-๓ ปี

ตอนนี้ สู่ขั้นตอน “เดินหน้า” เป็นรูปธรรมแล้ว!

รถไฟฟ้าความเร็วสูง “ไทย-จีน” กรุงเทพฯ-หนองคาย ช่วงแรก โคราช-กรุงเทพฯ

ได้ยินข่าวแว็บๆ ว่า พรุ่งนี้ (๒๑ ธ.ค.)

นายกฯ ลุงตู่จะไปประเดิมค้อน “ตอกหมุด” เป็นปฐมฤกษ์ ระหว่างสถานีกลางดง-ปางอโศก

ดีครับ………

ปิดปาก เปิดหู “พูดให้น้อย-ฟังให้มาก” ปรับพื้นอารมณ์ให้นวล ใครว่าอะไรช่างเขา เราลงมือทำ

ไม่ต้องทำร้อยเรื่อง เอาเรื่องใหญ่ๆ เรื่อง-สองเรื่องให้เห็นผล ดีกว่าพูดร้อยเรื่อง แต่ไม่เป็นเรื่องซักเรื่อง

เมื่อเนื้องานเดิน กลเกมการเมืองที่รุมเร้า จะเฉาไปเอง!

ที่ไม่เฉา กลับดูจะฉาวหนักขึ้นทุกวัน เห็นจะเป็นที่ สนช.

นับวันชักจะเลอะนะ

“ชักเข้า-ชักออก” มันดีบางเรื่อง แต่เรื่องกฎหมาย ขืนชักเข้า-ชักออก วันนี้ ผ่าน พรุ่งนี้ พานจะแก้

เดี๋ยวก็ชักตาตั้งจนได้!

ตอนนี้ มะรุมมะตุ้มกันแต่เรื่องเลือกตั้ง เฮมาสุมกันอยู่หน้าบ้าน ปล่อยหลังบ้านโล่ง

ระวังเหอะ……..

อ่านข่าววันก่อนที่ นางอะไรล่ะ…ร้อยโทหญิงสุณิสา หรือที่เรียกกัน “หมวดเจี๊ยบ”

ขอโทษ ปกติไม่ให้น้ำหนัก จึงเรียกผิด-เรียกถูก มาสนใจเมื่อวันก่อน ที่ถูกตำรวจ ปอท.เรียกไปรับทราบข้อหา

ก็ไม่ได้สนใจเธออีกนั่นแหละ……….

แต่สนใจ “แนวคิด-แนวทำ” ของเธอ ที่ดึงเอาคน “นอกชาติ-นอกภาษา” เข้ามาเชิงกดข่มการทำหน้าที่ของตำรวจ

ในข่าวบอกว่า เธอพามาเป็นฝูง……

-หัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย

-ตัวแทนจากเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำไทย

-ตัวแทนจากเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำไทย

-ตัวแทนเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำไทย

-ตัวแทนเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำไทย

เธออ้าง ตัวแทนจากค่าย-สังกัดเหล่านั้นมาสังเกตการณ์ ที่ตำรวจดำเนินคดีเธอ เกี่ยวกับความผิดทางคอมพิวเตอร์

รวมทั้งข้อหายุยง-ปลุกปั่น ตามมาตรา ๑๑๖!

จะมองว่า “มาเป็นเพื่อน” ก็ไม่ใช่ เป็นไปได้ทางเดียว คือ

พามาด้วยเจตนา……..

หวังใช้อำนาจต่างชาติ “กด-ข่ม” กระบวนการกฎหมายของชาติตัวเอง!

เธอเคยเป็นทหาร มียศถึงร้อยโท ก่อนที่สถาบันทหารจะรับเข้าประจำการ

ผมเชื่อ ต้องผ่านการทดสอบ คัดกรอง ด้านทัศนคติ สำนึก ในความเป็นชาติ พระศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์

แล้วกะแค่ถูกตำรวจตั้งข้อหา……….

“มโนสำนึก” ในบูรณภาพแห่งดินแดน และศักดิ์ศรีในความเป็นชาติ มันไม่มีเยื่อยางในจิต-ในใจเลยหรือ?

ถึงได้ไป “ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน” อย่างนี้?

เห็นข่าวไทยโพสต์เมื่อวาน ว่าตำรวจเรียกไปรับทราบข้อหาเพิ่ม

ที่ถูกใจผมมาก คือตำรวจทำหนังสือสอบถามและขอคำยืนยันไปยังต้นสังกัดฝรั่งเหล่านั้นว่า……..

จริงหรือเปล่า…ใช่หรือเปล่า?

ที่ได้ส่งตัวแทนตามที่ “หมวดเจี๊ยบ” อ้าง ไปสังเกตการณ์วันนั้น

ถ้าไม่จริง ไม่ใช่….

ให้แต่ละสถานทูตที่ถูกอ้างชื่อ มาเป็นเจ้าทุกข์กล่าวโทษ กับบุคคลที่แอบอ้างเป็นตัวแทน ก่อพฤติกรรมยุ่มย่ามกับกิจการภายในประเทศของไทย

ตรงนี้ ผมว่า “กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี (ปอท.)

ย้อนรอยได้เยี่ยม!

พอดี ก่อนหน้านี้ ผมอ่านที่ “ปราชญ์ สามสี” โพสต์ fb ถือเป็นส่วนขยายภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยกันอ่านหน่อย ข้อความดังนี้

วันก่อน เห็นรูปตอนคุณ “เจี้ยบ” ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ บก.ปอท.เกี่ยวกับการหมิ่นประมาท คสช.ก็เห็นว่ามี

“นายแอนดรูว์ อาร์มสตรอง” เลขานุการโท ฝ่ายการเมือง ของเอกราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ไปสังเกตการณ์ด้วย ก็นึกเอ๊ะใจ!

เพราะเมื่อ สิงหาคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา “นาย แอนดรูว์ อาร์มสตรอง” ก็เพิ่งไปสังเกตการณ์ คดี “นายประวิตร โรจนพฤกษ์” ผู้สื่อข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์ข่าวสด ภาคภาษาอังกฤษ ได้มารับข้อกล่าวหา ยุยงปลุกปั่นให้กระด้างกระเดื่องต่อกฎหมาย (ม.๑๑๖) อันเป็นโทษร้ายแรงทางความมั่นคง (อีกนิดก็กบฏแล้ว)

เมื่อเดือนที่แล้ว “นายแอนดรูว์ อาร์มสตรอง” ก็เพิ่งไปงานสัมมนาทางวิชาการและเทศกาลสิทธิมนุษยชนอีสาน “๗๐ ปี ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน : สิทธิชุมชนอีสานอยู่ตรงไหน?”

จัดโดย วิทยาลัยการเมืองการปกครอง ม.มหาสารคาม

ว่าแต่ไอ้งานนี้ มันถูกสนับสนุนโดยองค์กรแสบๆ ตัวสำคัญๆ ทั้งนั้นเลย ตั้งแต่

National Endowment for Democracy (NED)

อีสานเร็คคอร์ด, heinrich boell stiftung และ

องค์กรนิรโทษกรรมสากล (amnesty international) เป็นต้น

ซึ่งองค์กรเหล่านี้ บางส่วนรับเงินทุนสนับสนุนจาก George Soros ผ่าน มูลนิธิ open society นั้นแหละครับ

โดยเฉพาะ National Endowment for Democracy (NED) และ U.S. Agency for International Development (usaid) ที่เคยมีประวัติแม้แต่การสนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ก่อการร้าย ISIS ในตะวันออกกลาง ให้รบกับรัฐบาลซีเรียมาแล้ว

อีกทั้ง ยังสนับสนุน เงินทุนให้กับกลุ่ม “ม็อบร่ม” ในฮ่องกง ให้ต่อต้านรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่

งานนี้ น่าจับตาเงินทุนและการสนับสนุนทางกิจกรรมกลุ่มต้านพระมหากษัตริย์ ที่เอา “ประชาธิปไตย” บังหน้ากันดีๆ นะครับ

ครับ…..เนื้อที่หมด……..

แต่เนื้อหาที่จะคุยยังไม่หมด ขยายต่อวันหน้าละกัน.