วันพุธ 16 ตุลาคม 2024
  • :
  • :
Latest Update

หมายเรียก “วีระ – บก.ลายจุด” พร้อมพวกรวม 39 ราย ม็อบ “สกายวอล์ค”

      สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เมื่อเวลา 15.45น. วันที่ 31 มกราคม  พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กล่าวว่า วันนี้ เชิญชุดสืบสวนสอบสวนและพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ซึ่งทำคดีการชุมนุมของกลุ่มเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งฯ เข้าพบเพื่อเร่งรัดติดตามคดี หลังออกหมายเรียกแกนนำชุมนุมไปแล้ว 7 คน ประกอบด้วย นายรังสิมันต์ โรม นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์หรือจ่านิวและพวก ในข้อหา ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ลงวันที่ 1 เมษายน 2558 ข้อ 12 และกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในสังคม กระทบต่อความมั่นคง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า กรณีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตน ที่รับผิดชอบงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ เป็นผู้ควบคุม กำกับดูแลหน่วยปฏิบัติ ให้ออกสืบสวน เฝ้าระวัง หาข่าวกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ต่อมาวันที่ 25 มกราคม .61 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ได้ตรวจพบว่ามีการส่งข้อมูลผ่านโซเชียล มีเดีย เชิญชวนให้ประชาชนมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล และ คสช. ในวันที่ 27 ม.ค.61 เวลาประมาณ 17.30 น. ณ บริเวณทางเชื่อมอาคาร หรือสกายวอล์ค แยกปทุมวัน แขวง /เขต ปทุมวัน กรุงเทพหานคร และเมื่อถึงวันเวลาดังกล่าว ได้มีกลุ่มบุคคล นำโดย นายรังสิมันต์ โรม  ร่วมกันชุมนุม โดยการเปิดปราศรัยโจมตีการทางานของรัฐบาล คสช. ลักษณะเนื้อหาเป็นการยุงยง ปลุกปั่น เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน จึงดำเนินคดีแกนนำทั้งหมดแล้ว ตามที่ คสช. ร้องทุกข์

รองผบ.ตร.กล่าวว่า กระทั่งเมื่อวานนี้นางนวพร กลิ่นบัวแก้ว ผู้อำนวยการสานักงานเขตปทุมวัน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ยืนยันว่าจุดที่จัดให้มีการชุมนุมเป็นพื้นที่สาธารณะ พ.ต.ท.สมัคร ปัญญาวงค์ รองผู้กำกับการ(สอบสวน) หัวหน้างานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพิ่มเติม รวม 39 คน  ในความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ฐานร่วมกันชุมนุมในที่สาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากวังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พุทธศักราช 2558 มาตรา 7 วรรคแรก โดยให้ทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวนในวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ ซึ่งในจำนวนนี้มี 7 คนที่ถูกออกหมายเรียกไปก่อนหน้าด้วย ทั้ง 39 คนรายชื่อดังนี้

“1.นายรังสิมันต์ โรม แกนนำในการชุมนุม
2.นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ แกนนำในการชุมนุม
3.นางสาวณัฏฐา มหัทนา แกนนำในการชุมนุม
4.นายอานนท์ นำภา แกนนำในการชุมนุม
5.นายเอกชัย หงส์กังวาน แกนนำในการชุมนุม
6.นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ แกนนำในการชุมนุม
7.นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล แกนนำในการชุมนุม
8.นายวีระ สมความคิด แกนนำในการชุมนุม
9.นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำในการชุมนุม
10.นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ แนวร่วมคนเสื้อแดง
11.นางมัทนา อัจจิมา แนวร่วมคนเสื้อแดง
12.น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ มารดาของนายสิรวิชญ์
13.นายเอกศักดิ์ สุพรรณขันธ์ แนวร่วมคนเสื้อแดง
14.นางรักษิณี แก้ววัชระสังสี แนวร่วมคนเสื้อแดง
15.นางจุฑามาศ ทรงเสี่ยงไชย แนวร่วมคนเสื้อแดง
16.นางพรนิภา งามบาง แนวร่วมคนเสื้อแดง
17.นายกิตติธัช สุมาลย์นพ แนวร่วมกลุ่มนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
18.นางสุดสงวน สุธีสร นักวิชาการกลุ่มคนเสื้อแดง
19.นายกันต์ แสงทอง นักวิชาการ
20.นายนพพร นามเชียงใต้ แนวร่วมกลุ่มวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ
21.นายสุวัฒน์ ลิ้มสุวรรณ นักวิชาการอิสระ
22.นางกมลวรรณ หาสาลี คนเสื้อแดงพระราม 9
23.นางนัตยา ภานุทัต แนวร่วมคนเสื้อแดง
24.นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ ฉายา “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง”
25.นางประนอม พูลทวี คนเสื้อแดงจังหวัดสมุทรปราการ
26.นายสงวน คุ้มรุ่งโรจน์ แนวร่วมคนเสื้อแดง
27. นายสุรศักดิ์ อัศวะเสนา แนวร่วมคนเสื้อแดง
28.นางพรวลัย ทวีธนวาณิชย์ แนวร่วมคนเสื้อแดง
29.นางสุวรรณา ตาลเหล็ก แนวร่วมคนเสื้อแดง
30.นางนภัสสร บุญรีย์ แนวร่วมคนเสื้อแดง
31.น.ส.อรัญญิกา จังหวะ นักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
32.นายพรชัย ประทีปเทียนทอง แนวร่วมคนเสื้อแดง
33.นายวรัญชัย โชคชนะ แนวร่วมคนเสื้อแดง
34.นายนพเกล้า คงสุวรรณ แนวร่วมกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา
35.นายคุณภัทร คะชะนา แนวร่วมกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย
36.นายสามารถ เตชะธีรรัตน์ แนวร่วมกลุ่มฟื้นฟู
ประชาธิปไตย
37.น.ส.อ้อมทิพย์ เกิดผลานนท์ แนวร่วมกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย
แนวร่วมคนเสื้อแดง
38.นายวราวุธ ฐานังกรณ์ แนวร่วมกลุ่มฟื้นฟู ประชาธิปไตย
และ39.นายเดชรัตน์ สุขกำเนิด นักวิชาการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์” รองผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจาก 39 รายนี้แล้ว การรวบรวมพยานหลักฐานของชุดสืบสวนสอบสวน ที่ติดตามผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ไปหลายจุด มากว่า 6-7 ท้องที่  พบว่า ยังมีผู้เข้าข่ายร่วมชุมนุม ปรากฏตามหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ทั้งภาพเคลื่อนไหว ภาพถ่าย การถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก   ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 66 คน กำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคล หากทราบตัวว่าเป็นใครชื่ออะไร มีข้อมูลเลขประจำตัวประชาชน ก็จะออกหมายเรียก แต่หากไม่สามารถออกหมายเรียกได้ก็ต้องออกหมายจับ โดยทั้ง 39 คน ต้องพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกในวันศุกร์นี้หากไม่มาพบก็พิจารณาออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หากขัดหมายเรียกก็ขอศาลอนุมัติหมายจับได้ ทั้งนี้ใครที่ร่วมชุมนุม แล้วทำผิดกฎหมาย ต้องดำเนินคดีทุกคน ไม่เว้นไม่ว่าจะเป็นแกนนำหรือแนวร่วมเอาหมด

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มมวลชนและพี่น้องประชาชนทั่วไป ได้รับทราบถึงข้อกฎหมาย ในเรื่องของการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พุทธศักราช 2558 และนอกจากนี้ การยุยง ปลุกปั่น ให้เกิดความแตกแยก จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีอัตราโทษสูง จึงประชาสัมพันธ์มาให้ทราบโดยทั่วกัน ซึ่งกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมนี้หากมีความผิดอื่นเพิ่มเติมก็แจ้งข้อหาเพิ่ม ถ้ายังมาชุมนุมอีกแบบผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีอีก ต่างกรรมต่างวาระ”รองผบ.ตร.กล่าว และว่า ทั้งนี้สอบถามตำรวจท้องที่ก็ทราบว่าการชุมนุมเมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ไม่ได้ขออนุญาตก่อน หากขอก็คงไม่อนุญาตเพราะอยู่ในรัศมีเขตพระราชฐานห้ามชุมนุมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม สามารถจัดกิจกรรมอะไรก็ได้ เดินผ่านเฉยๆก็ได้ในบริเวณนี้แต่ถ้ามารวมตัวกันมีการพูดจาปราศรัย ทางการเมือง ที่เข้าลักษณะชุมนุมทางการเมือง แบบนี้ทำไม่ได้อยู่แล้ว คนไทยเรารู้อยู่แล้วว่าอะไรคือการชุมนุมอะไรไม่ใช่ เพราะฉะนั้นหากทำอีกก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ละเว้นไม่ดำเนินคดีไม่ได้ ไม่ได้เป็นการขึงขังเกิดไป ส่วนจะกลายเป็นชนวนจุดติด สร้าวความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองหรือไม่ ตนไม่ทราบ ตนเพียงทำตามกฎหมาย ยึดตามคำสั่งคสช.” รองผบ.ตร. กล่าว