ภาณุมาศ ทักษณา
23 มิถุนายน 2015
ในหน้า 51 ของหนังสือ 100 ปีพระยาพหลฯ นักหนังสือพิมพ์อาวุโส นเรศ นโรปกรณ์ เปิดบันทึกของ นายปรีดี พนมยงค์
ที่เขียน บางเรื่องเกี่ยวกับการก่อตั้งคณะราษฎร และระบบประชาธิปไตย เอาไว้อย่างน่าสนใจ และน่าศึกษาอย่างยิ่งว่า
๑ การประชุมเป็นทางการครั้งแรกของคณะราษฏร มีขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1927 ( พ.ศ.2470) ที่หอพักแห่งหนึ่ง
ณ RUE DU SOMMERRAD ซึ่งเราเช่าห้องใหญ่ไว้เฉพาะการประชุมนั้น ผู้ร่วมประชุมมี 7 คนคือ
(1)ร.ท.ประยูร ภมรมนตรี นายทหารกองหนุนซึ่งเคยเป็นผู้บังคับหมวดทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์รัชกาลที่ 6
(2)ร.ท.แปลก ขีตตะสังคะ สำเร็จวิชาจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบกสยาม แล้วมาศึกษาต่อโรงเรียนนายทหารปืนใหญ่ฝรั่งเศส
(3)ร.ต.ทัศนัย มิตรภักดี นายทหารกองหนุ่นซึ่งเคยเป็นผู้บังคับหมวดกรมทหารม้าที่ 5 นครราชสีมา แล้วมาศึกษาที่โรงเรียนนายทหารม้า ฝรั่งเศส
(4)นายตั้ว ลพานุกรม นักศึกษาวิทยาศาสตร์ในสวิตเซอร์แลนด์ เคยเป็นจ่านายสิบในกองทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1
(5)หลวงสิริราชไมตรี นามเดิม จรูญ นามสกุล สิงหเสนี ผู้ช่วยสถานทูตสยามประจำกรุงปารีส เคยเป็นนักเรียนกฎหมายกระทรวงยุติธรรม และเป็นนายสิบตรีในกองทหารอาสาสงครามโลกคร้งที่ 1
(6)นายแนบ พหลโยธิน เนติบัณฑิตอังกฤษ
(7) ข้าพเจ้า(นายปรีดี พนมยงค์) ที่ประชุมมติเป็นเอกฉันท์ให้ข้าพเจ้าเป็นประธานและเป็นหัวหน้าคณะราษฎรจนกว่าจะมีบุคคลที่เหมาะสมเป็นหัวหน้าคณะราษฎรในกาลต่อไป – นายปรีดี พูดถึงการประชุมเพื่อการวางแผนไว้ด้วยแต่ผมขอข้าม..
เรื่องที่น่าสนใจคือการเตรียมงานในไทย ซึ่งนายปรีดี ได้บันทึกเอาค่อนข้างละเอียด เริ่มจาก..
“เมื่อเสร็จการประชุมก่อตั้งคณะราษฎรแล้ว ข้าพเจ้ากลับสยามในเดือนมีนามคมปีนั้น แล้วเพื่อนที่ยังอยู่ในปารีสเลือกเฟ้นผู้ที่สมควรชวนร่วมคณะต่อไป อีกประมาณ 2 – 3 เดือน เพื่อที่ยังอยู่ปารีสได้ชวน นายทวี บุณยเกตุ นักศึกษาวิชาเกษตร และ นายบรรจง ศรีจรูญ ไทยมุสลิมจากอียิปต์ที่มาเยือนปารีส ซึ่งรับภาระจัดตั้งไทยมุสลิมต่อไป อาทิ นายแช่ม มุสตาฟา (บุตรหัวหน้าศาสนาอิสลามในไทยที่รู้จักกันในนามว่า “ครูฟา” ต่อมานายแช่มเปลี่ยนนามสกุลว่า “พรหมยงค์” คล้าย ๆ นามสกุลข้าพเจ้า)
ต่อมาได้ชวน ร.ต.สินธุ์ กมลนาวิน ร.น.นักศึกษาวิชาทหารเรือเดนมาร์กที่มาเยือนปารีส ต่อมาพระยาทรงสุรเดช ได้มาดูงานทหารในฝรั่งเศส เพื่อที่ยังอยู่ในปารีสจึงลองทาบทามว่ามีความรู้สึกอย่างไรต่อระบบสมบูรณาฯ ก็ได้ความว่าไม่พอใจระบบนั้นแต่ยังมิได้ถูกชวนเข้าร่วมในคณะราษฎร
ต่อจากนั้นเพื่อที่ก่อตั้งคณะราษฎรที่ปารีสก็ทยอยกลับสยาม ค่อย ๆ ชวนเพื่อนนักศึกษาที่เคยสังเกตไว้ในการสนทนาเดียงเคร่า ๆ มิได้จำกัดเฉพาะนักศึกษาในฝรั่งเศสเท่านั้น
ฉะนั้นต่อมาในสยามจึงชวน ม.ล.อุดม สนิทวงศ์ นักศึกษาจากสวิตเซอร์แลนด์, ม.ล.กรี เดชาติวงศ์, นายสพรั่ง เทพหัสดิน ณ อยุธยา และนายเล้ง ศรีสมวงศ์ นักศึกษาจากอังกฤษ ฯลฯ และเพื่อนทหารบก ทหารเรือ พลเรือนคนอื่น ๆ ในสยาม
ในปลาย พ.ศ.2474 จึงได้ชวน พระยาพหลพลพยุหเสนา , พระยาทรงสุรเดช, พระยาฤทธิอัคเนย์ และ มอบให้ พระยาพหลฯ เป็นหัวหน้าคณะราษฎร”
…… จากบันทึกนี้จะเห็นได้ว่า การวางแผนโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์มีจุดเริ่มต้นจากพลเรือน คือ นายปรีดี พนมยงค์ ที่วันสองวันนี้จะมีการเชิดชูเกียรติกันอย่างเอิกเกริก แล้วจึงมีนายทหารเข้าร่วม ซึ่งแต่มาคณะผู้ก่อการฯ ก็แตกคอเพื่อแย่งอำนาจกันถึงขั้นไล่ล่ากัน บางคนก็ไปตายนอกประเทศให้เป็นที่อเนจอนาจยิ่งนัก
เหมือนจะบอกให้รู้ว่า คนที่คิดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มักไม่ตายดีอย่างไรอย่างนั้น !