เรื่องมหาอภิชาติ ถูกจับในประเด็นความมั่นคง เป็นประเด็น”ร้อน” เรื่องนี้จำเป็นต้องขยาย

– ปราชญ์ สามสี ๒๓ กันยายน ๒๕๖๐

เมื่อสองสามวันก่อนมีประเด็นร้อนขึ้นมานิดหน่อย เกี่ยวกับการจับกุมพระมหาอภิชาติ ในกรณีความผิดทางความมั่นคง

เรื่องนี้ยังจำเป็นต้องขยายความอีกมาก เพราะ มีบ่างคนยังไม่ทราบว่า พระมหาอภิชาติ ไปทำอะไรถึงได้ ถูกจับเช่นนี้

ก่อนอื่นเลยเราต้องดูครับว่าพฤติกรรมของมหาอภิชาติ นั้น เรียกได้ว่า”รุนแรง – หยาบคาย” ทั้งดูหมิ่นศาสนาอิสลาม ลุกลามถึงขั้นข่มขู่จะไปเผามัสยิด ที่”ขอนแก่น” และสามจังหวัดชายแดนใต้ อีกทั้งไปเหยียด ชาวไทยศาสนาอิสลามราวกับว่ามิใช่มนุษย์ เรื่องความหยาบคายแบบนี้มันต้องมีที่มาครับ

เราลองนึกกันครับว่า แค่”พระรูปเดียว”ที่มีความหยาบคายเช่นนี้ คงไม่อาจจะไปหาเรื่องใครได้จริงอย่างที่ เขาได้กล่าวอ้าง…
แต่การที่”มหาอภิชาติ”ที่มีบุคลิกเคลื่อนไหวยุยงปลุกปั่นเช่นนี้ เขาย่อมมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังแน่นอนครับ แต่อาจจะสนับสนุนอยู่ในระดับไหนฝ่ายไหนต้องดูอีกครับ…

การที่”มหาอภิชาติ” เคลื่อนไหวปลุกระดมผ่านโซเชียลมีเดียแต่เพียงคนเดียวนั้น เจตนาที่แท้จริงของ ” มหาอภิชาติ “นั้น มีนัยยะเพื่อ ยั่วโมโห กับมุสลิมสามจังหวัดชายแดนใต้ให้ลุกฮือออกมาต่อต้านกลายเป็นไฟลามทุ่ง เกี่ยวกับความขัดแย้งทางศาสนาซึ่ง การกระทำของ พระมหาอภิชาติ สอดคล้องกับ การเมือง”วัดจานบิน”ในเรื่อง”ปราบมาร” และ”การเมืองเสื้อสี” ที่กำลังหาแรงมวลชน ในการต่อต้านรัฐบาลคสช. ซึ่งทุกๆการขยับรุนแรงอาจส่งผลกับเศรษฐกิจสังคมไทยให้แย่ลงครับ

เนื่องจากเรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากและหากถูกยั่วยุอย่างเป็นระบบ ก็จะสามารถจุดไฟความขัดแย้งได้ซึงจะเอื้อทำให้ รัฐบาลคสช.เดือดร้อนต่อเนื่องนั้นเอง แต่ดูเหมือนว่า ไม่เป็นผล เพราะกระแสการเมืองเสื้อสี”อยู่ในช่วงขาลง” นักเลงฮาร์ดคอร์ ก็ไม่เหลือพื้นที่ให้เล่นมากนัก

มหาอภิชาติ จริงๆมี[เบื้องหลัง]เพราะการเคลื่อนไหวของเขานั้น เรียกได้ว่า ระคายประเทศหลายครั้ง ทั้งเคยพยายาม ยุยงให้แยกพระสังฆราช ออกเป็น๒นิกายซึ่งเรื่องนี้ใครติดตามธรรมกายจะทราบดี ว่าประเด็นนี้เอื้อธรรมกายมา เมื่อต้นปี2560 แและยังเคยออกมาปากสนับสนุนนักเคลื่อนไหวต่อต้านสถาบันที่ลี้ภัยในต่างประเทศบางคนอีกด้วย

ตัวตน มหาอภิชาติ จึงถือเป็น หนึ่งในเครือข่ายสำคัญที่ยุยงให้คนไทยพุทธ และคนไทยมุสลิม ที่อยู่ทั้งใน สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ดินแดนอีสานใหม่ เริ่มทะเลาะเบาะแว้งกันและหากขุดคุ้ยกลุ่มการเมือง และกลุ่มโลกไซเบอร์ที่ออกมาสนับสนุน การกระทำ ของ มหาอภิชาติที่ยุยงให้เผามัสยิดของอิสลามในไทย ก็จะพบว่าเป็นก๊วนเดิมๆ ที่เคยออกมาสนับสนุนธัมมชโย และ สนับสนุนกลุ่มการเมืองเสื้อสีแดงครับ

“มหาอภิชาติ” จะตั้งใจโหนกระแสการเมืองเองหรือไม่นัน้ไม่ทราบ แต่ มีกลุ่มการเมือง สนับสนุน “มหาอภิชาติ” แน่นอน

ปัญหาโรฮิงญา กับ พระอู วิราทูในเมียนม่า หรือ ความขัดแย้งระหว่างพระเผาตนเองกับรัฐบาลโง ดินห์ เดียมของเวียดนามในอดีต เรื่องการเมืองในประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ เชื่อว่าถูกใช้เป็นต้นแบบ “มหาอภิชาติ โมเดล” ที่ ถูกปั้นแต่งออกแบบให้มีลักษณะความขัดแย้งเพื่อเป็นการจุดประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ครั้งแรกนะครับ ที่การเมืองเสื้อแดง – การก่อการร้ายในสามจังหวัดชายแดนใต้ และเรื่องการเมืองในศาสนาพุทธและมุสลิมบางกลุ่ม จะกลายเป็นพวกเดียวกัน

เพราะ เคยปรากฏหลักฐานว่า กลุ่มการเคลื่อนไหวเช่น”จ่านิว” ก็ยังเคยลงไปร่วมทำกิจกรรม กับ สุไฮมี ดูลาซะของกลุ่ม Permas เอื้อความเคลื่ิอนไหวให้กับ BRNในการปลดปล่อยแบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดชายแดนใต้ … อีกทั้ง ยังมีความเคลื่อนไหวคนเสื้อแดงอย่างโกตี๋ ไปโหนกระแสธรรมกายปลุกระดมให้กระแสศาสนามีความรุนแรงก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

แต่นับว่า โชคยังดีที่ คนไทยพุทธ และคนไทยมุสลิม เนื้อแท้ รู้จักความสามัคคีภายในชาติเพราะรู้ว่า เป็นคนไทยด้วยกันแม้ว่าอยู่ต่างกันคนละศาสนาก็ยังอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกันครับ

เพราะฉะนั้นแล้ว หากเรามองข้ามความยุยงปลุกปั่นของคนเพียงบางคนแล้ว สันติภาพ ใต้ก็จะเกิดครับ เพราะไม่ว่าเราคนไทยจะนับถือศาสนาใดก็ตามพวกเราก็เป็นคนไทยด้วยกันครับ

การจับกุม คนอย่าง มหาอภิชาติ แล้วดำเนินตามกฏหมายตามมาตรา 116 เป็นเรื่องที่สมควรแล้วครับ ส่วนคนที่ออกมา สนับสนุน มหาอภิชาติ ซึ่งโวยวายอยู่ในอินเอตร์เน็ตช่วงนี้ …ห้นาตาชัดเจนดีครับว่าพวกไหน? ข้าพเจ้าเชื่อว่า มหาอภิชาติ ไม่ได้เสียสติแต่อย่างใด …แต่เชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี่ครับ

ปล. ข้าพเจ้าไม่ให้ค่ากับ คำพูดของ”พระมหาไพร่ฯ”จีวรแดง ที่อยู่ๆก็โดดโพล่งออกมาให้ความเห็น พยุง”มหาอภิชาติ” นะครับเพราะข้าพเจ้าเชื่อว่าเป็นเพียงการ” แอ๊กอาร์ด” แซะ รัฐบาลเท่านั้นเอง